เทนนิส

ประวัติความเป็นมาของ กีฬาเทนนิส

เทนนิส มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนผู้ดี อย่างประเทศสหราชอาณาจักร หรือที่หลายคนรู้จักกันดี ในนามของประเทศอังกฤษนั่นเอง โดยกีฬาประเภทนี้ เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง ของอังกฤษ และได้แพร่ขยายไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นหลัก ด้วยรูปแบบการแข่งขัน และนับคะแนนที่มีความเรียบง่าย แต่สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งคนดู และผู้แข่งขัน ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่นาน กีฬาประเภทนี้ ก็ได้ขยายความนิยมออกไปทั่วโลก รวมไปถึง ประเทศไทยของเราด้วย ซึ่งเมื่อกีฬาได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทำให้ต่อมาในปี 1926 ได้มีการจัดการแข่งขันเทนนิส แบบทัวร์นาเม้นท์ ขึ้นมาเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้น ในปี 1988 เทนนิส ก็ได้รับการบรรจุเข้าเป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬา ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และนับจากนั้นเป็นต้นมา เราก็ได้ชมการแข่งขันเทนนิส ในโอลิมปิกทุกครั้ง มาจนถึงในปัจจุบัน

กติกา เทนนิส ในการแข่งขันสากล

อย่างที่เรารู้กันดีว่า เทนนิสได้รับการบรรจุ เป็นประเภทของกีฬา สำหรับการแข่งขันระดับประเทศ และระดับโลก เพราะฉะนั้น ต้องมีกติกา และข้อกำหนดของการแข่งขันที่เป็นมาตรฐาน รวมไปถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับการแข่งขัน เนื่องจากกีฬาประเภทนี้ เป็นกีฬาที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะสำหรับการแข่งขัน และในส่วนของกฎกติกาต่างๆ ของกีฬาเทนนิสในระดับสากล เราได้ทำการรวบรวมมาไว้แล้ว ที่หัวข้อนี้ ดังนี้

เส้นสำหรับเสริฟ์เทนนิส

อย่างแรกที่นักกีฬา ต้องรู้ ก็คือ ในการแข่งขันนั้น จะมีเส้นเสริฟ์ 2 แบบ ก็คือ เส้นเสริฟ์ หลัก และ เส้นเสริฟ์ กลาง ซึ่ง เส้นเสริฟ์หลัก จะอยู่ห่างจากตาข่าย ที่ 6.40 เมตร ส่วนเส้นเสริฟ์กลาง จะเป็นเส้นที่อยู่ตรงกลาง ที่เป็นจุดแบ่งเขตแดนด้านซ้าย และขวา ของสนามแข่งขันนั่นเอง

การนับคะแนน

การขานคะแนน ในเกมเทนนิส จะไม่ได้นับ ตามตัวเลข แต่จะเริ่มขานที่ 15 ,30 ,40 และนับไปเรื่อยๆ ฝ่ายไหนตีลง ในเส้นครบ 6 หรือ 7 ลูกก่อน ถือว่าได้คะแนนในเกมนั้นไป แต่ถ้าหากในระหว่างการแข่งขัน ทั้งคู่ทำคะแนนได้สูสี คือ 6 เท่ากัน อาจจะต้องมีการนับไทเบรก ในเกมที่ 7 โดยใช้การขาน 1-7 และใครได้ 7 ลูกก่อน ก็ถือว่าชนะไปใน 1 เกม โดยในการแข่งขัน แต่ละครั้ง มักจะแข่งกันที่ 6 เซต คือ ในแต่ละเซต ใครได้  6 ลูกก่อน ถือว่าเป็นฝ่ายชนะ ในเกม และเมื่อนับรวมกัน ใครได้ครบ 6 เกม ก็จะถือว่าชนะใน 1 เซต

แต่อย่างไรก็ดี ในแต่ละเซตนั้น เราจะไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการแข่งขันอย่างตายตัวได้เลย ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ติดตามการแข่งขัน เทนนิส ในระดับนานาชาติ  เป็นประจำจะพบว่า บางครั้งการแข่งขันอาจจะกินเวลา ไปนานถึง 12 ชั่วโมง ต่อ 1 แมทซ์ เพราะกว่าจะได้ครบ 6 เซต ต้องใช้เวลา ในการตีลูกตอบโต้กันอยู่นาน ที่สำคัญ ที่สุด เกมอาจจะยืดเยื้อได้ หากแต่ละฝ่ายเสมอกันที่ 5-5 เกม อาจจะต้องมีการแข่งต่อ เพื่อให้ได้รู้ว่า ใครจะทำได้ 7 เกมก่อนกัน ซึ่งเรียกการดวล แบบนี้ว่า การแข่งขันแบบไทเบรก ซึ่งหลายๆ ครั้ง ผู้จัดการแข่งขันอาจจะไม่ใช่ระบบดังกล่าว แต่ให้นักกีฬาแข่งกันว่า หลังจากเกมสุดท้าย ที่เสมอ ให้เล่นจากว่า ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง จะชนะที่ 2 เกม จึงถือว่า ชนะ

เรื่องอื่นๆ

สูตรแทงรูเล็ต
สูตรแทงบอลสเต็ป
พื้นฐานการแทงบอลชุด
วิธีเล่นไพ่แบล็คแจ็ค
วิธีแทงบอลผ่านมือถือ
เทคนิคเล่น บาคาร่า
เทคนิคการเอาชนะ สล็อต
รวมเทคนิคสุดเจ๋งของเกมยิงปลา